โรคฝีคัณฑสูตรอาจเป็นโรคที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนักสำหรับคนส่วนใหญ่ เพราะหากพูดถึงโรคที่เกิดขึ้นที่บริเวณทวารหนัก คนส่วนมากจะนึกถึงโรคริดสีดวงสียมากกว่า แม้โรคฝีคัณฑสูตรอาจไม่เป็นที่รู้จักแต่ทราบหรือไม่ว่าโรคนี้กลับสร้างความทุกข์ทรมานให้แก่ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ไม่น้อย เพราะตำแหน่งที่เป็นนั้นจัดว่ารบกวนชีวิตประจำวันเป็นอยากมาก และที่สำคัญฝีคัณฑสูตรนั้นสามารถเกิดขึ้นซ้ำได้อีกหากผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาให้หายขาด ด้วยเหตุนี้โรคนี้จึงเป็นหนึ่งในฝันร้ายของผู้ป่วยอย่างแท้จริง ฝีคัณฑสูตรเป็นอย่างไร และรบกวนชีวิตประจำวันของผู้ป่วยได้อย่างไร บทความนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับโรคนี้กันให้มากขึ้น
ฝีคัณฑสูตรคืออะไร สร้างความทุกข์ให้แก่ผู้ป่วยได้อย่างไร
ฝีคัณฑสูตรเกิดจากการติดเชื้อขึ้นที่ต่อมภายในทวารหนัก ซึ่งทำให้มีเชื้อแบคทีเรีย อุจจาระและของเสียหมักหมมจนกระทั่งเกิดเป็นฝีหนองขึ้นภายในทวารหนัก โดยเมื่อหนองที่เกิดขึ้นมีปริมาณมากขึ้นก็จะค่อย ๆเซาะตัวออกไปตามชั้นกล้ามเนื้อของทวารหนักจนกระทั่งทะลุมาถึงชั้นของผิวหนังที่อยู่บริเวณรอบ ๆทวารหนักและแตกทะลุออกสู่ภายนอก ซึ่งเส้นทางที่หนองทะลุออกมานี้จะกลายเป็นทางเชื่อมต่อช่องในทวารหนักกับผิวหนังซึ่งศัพท์ทางการแพทย์จะเรียนกว่า Fistula
ช่องทางเชื่อมต่อนี้เมื่อเกิดการอุดตัน ติดเชื้อและเป็นหนองจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการบวมและปวดมากที่บริเวณแก้มก้น อาจมีอาการปวดที่ขอบปากทวารหนักหรืออาจจะปวดข้างในทวารหนักได้ ในบางรายจะพบว่ามีน้ำเหลืองซึมออกมาจากรูที่ผิวหนังหรือมีเลือดหรือหนองปรากฏออกมา ซึ่งผู้ป่วยอาจมีอาการไข้ร่วมด้วย การเซาะของหนองภายในทวารหนักหากเกิดซ้ำเรื้อรังหนองอาจจะออกมาตามรูเดิมหรือเซาะขึ้นมาเป็นเส้นทางใหม่ได้ ทำให้บางรายมีรูเปิดของหนองได้หลายทาง แต่โดยส่วนมากมักจะมีรูเปิดเพียงรูเดียวเท่านั้น
สาเหตุของฝีคัณฑสูตร
ฝีคัณฑสูตรโดยมากเกิดจากสาเหตุของฝีที่ทวารหนักซึ่งไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมหลังจากที่มีการระบายหนองออกไปแล้ว จึงทำให้เกิดการพัฒนาจนกระทั่งกลายเป็นฝีคัณฑสูตรในที่สุด แต่นอกจากสาเหตุของฝีคัณฑสูตรจะเกิดจากสาเหตุข้างต้นก็อาจเกิดได้จากสาเหตุดังต่อไปนี้
– โรคถุงผนังลำไส้อักเสบ ซึ่งจะทำให้ผนังของลำไส้โป่งพองและเกิดการติดเชื้อ
– โรคลำไส้อักเสบเรื้อรังที่เรียกว่า Crohn’s disease
– การอักเสบของต่อมเหงื่อ
– การติดเชื้อ เช่นเชื้อวัณโรค เชื้อ HIV เชื้อซิฟิลิส หรือการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด
– เป็นแผลปริที่บริเวณขอบทวารหนัก
– ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัดใกล้บริเวณทวารหนักหรือเคยได้รับอุบัติเหตุบริเวณทวารหนัก
– โรคมะเร็งทวารหนักหรือมะเร็งผิวหนังบริเวณรอบปากทวารหนัก
การรักษาโรคฝีคัณฑสูตร
การรักษาโรคฝีคัณฑสูตรสามารถแบ่งการรักษาได้เป็น 2 วิธีทั้งวิธีการรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบันและการรักษาด้วยแผนธรรมชาติ โดยรายละเอียดของการรักษาฝีคัณฑสูตรมีดังนี้
1. การรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบัน
การรักษาโรคฝีคัณฑสูตรในทางการแพทย์แผนปัจจุบันจำเป็นจะต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อปิดช่องทางของฝีคัณฑสูตรหรือเพื่อให้ช่องทางออกของฝีนั้นมีการซ่อมแซมตัวเอง ซึ่งการรักษาฝีคัณฑสูตรด้วยการผ่าตัดนั้นจะทำหลังจากมีการระบายหนองออกไปแล้ว การผ่าตัดเพื่อรักษาฝีคัณฑสูตรนี้อาจมีภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดได้เพราะบางเทคนิควิธีอาจจะไปกระทบกับกล้ามเนื้อหูรูดของทวารหนักซึ่งอาจส่งผลต่อการกลั้นอุจจาระหรือการกลั้นผายลม ซึ่งเทคนิควิธีการผ่าตัดฝีคัณฑสูตรนี้มีหลายวิธีซึ่งการจะใช้วิธีผ่าตัดแบบใดนั้นก็เป็นไปตามอาการของคนไข้และดุลยพินิจของศัลยแพทย์ที่ทำการรักษา
2. การรักษาด้วยวิธีการทางธรรมชาติ
การรักษาฝีคัณฑสูตรในวิธีทางธรรมชาติมักจะใช้การรักษาด้วยสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งหนองและการอักเสบซึ่งสมุนไพรที่นิยมใช้ในการรักษาฝีคัณฑสูตรมีดังนี้
– คนทีเขมา มีสรรพคุณต้านการอักเสบ แก้ปวดต้านการเจริญเติบโตของเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดหนองและเชื้อราจึงมักจะเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่นิยมนำมารักษาฝีคัณฑสูตร
– เจตมูลเพลิงขาว มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรีย ช่วยรักษาอาการฝี วิธีใช้ให้นำใบสดมาตำหรือนำผงรากมาทาพอกฝีคัณฑสูตร
– หลิว เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่มีฤทธิ์ช่วยในการรักษาฝีคัณฑสูตรโดยนำกิ่งแห้งมาเผาให้เป็นเถ้าผสมน้ำแล้วทาพอกฝี
การรักษาฝีคัณฑสูตรโดยวิธีการทางธรรมชาติจึงเน้นที่การใช้สมุนไพรทั้งการรับประทานและพอกหัวฝีเพื่อบรรเทาอาการของฝีและทำให้หัวฝียุบลงในที่สุด
การป้องกันฝีคัณฑสูตร
แท้จริงแล้วไม่มีวิธีในการป้องกันฝีคัณฑสูตรโดยตรง แต่อาจป้องกันมูลเหตุที่อาจจะพัฒนาไปเป็นฝีคัณฑสูตรได้ดังนี้
– ป้องกันไม่ให้เกิดแผลที่บริเวณขอบหรือปากทวารหนักซึ่งอาจทำให้เกิดฝีคัณฑสูตรได้
– ระวังไม่ให้ตนเองท้องผูกเช่นการรับประทานผักและผลไม้ให้เพียงพอหรือดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว
– ใช้กระดาษชำระที่อ่อนนุ่มหรือน้ำทำความสะอาดหลังอุจจาระเสมอเพื่อป้องกันการเกิดแผล
– รักษาความสะอาดบริเวณปากทวารหนักเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
– หากเกิดแผลบริเวณปากทวารหนักควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาแต่เนิ่น ๆ อย่าปล่อยให้เกิดแผลเรื้อรังจนกลายเป็นหนอง เพราะมีโอกาสที่จะเกิดการพัฒนาจนกลายเป็นฝีคัณฑสูตรในที่สุด
ฝีคัณฑสูตรแม้จะไม่มีอันตรายที่ร้ายแรงแต่ก็สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ป่วยได้มาก เพราะโรคนี้กระทบต่อวิถีการดำเนินชีวิตประจำวันอยู่ไม่น้อย และที่สำคัญเพราะเป็นโรคที่มีโอกาสเกิดซ้ำได้จึงสร้างความทุกข์ทรมานเป้นอย่างมากให้แก่ผู้ป่วย ดังนั้นการป้องกันที่ดีที่สุดก็คือการใส่ใจต่อความสะอาดและสุขอนามัยบริเวณทวารหนักของตนเองให้ดีก็จะช่วยป้องกันไม่ให้ตนเองเกิดฝีคัณฑสูตรได้
Add Comment