“ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” ชีวิตที่ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บย่อมเป็นสิ่งที่เป็นยอดปรารถนาของคนในทุกวัย ยิ่งในวัยชราหรือเหล่าผู้สูงอายุด้วยแล้ว สุขภาพที่แข็งแรงเป็นดั่งพรจากสวรรค์และความโชคดีของคน ๆ นั้น เพราะการเจ็บป่วยแต่ละครั้งนอกจากความทรุดโทรมของสุขภาพร่างกายที่มากขึ้น ยังรวมถึงภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่เสียไปอย่างไม่ค่อยมีใครเต็มใจที่จะจ่าย จะดีกว่าไหมถ้าเราใส่ใจสัญญาณเตือนภัยที่ร่างกายพยายามจะบอกเราถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นและสนใจที่จะสังเกตอาการแปลก ๆ ที่ร่างกายฟ้องออกมา เพื่อที่จะไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาได้ทันท่วงที ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป เราไปดูกันว่าอาการใดคือสัญญาณเตือนภัยให้เรารีบพาผู้สูงอายุไปหาหมอก่อนที่มันจะลุกลามเกินเยียวยา
1. การรับรู้สติเปลี่ยนไป ไม่สามารถบอกเวลา สถานที่ หรือคนที่คุ้นเคยได้อย่างเฉียบพลัน
นี่คืออาการที่ควรรีบพาไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพราะสัญญาณเตือนนี้หมายถึงการเกิดความผิดปกติของสมอง ผู้เขียนเองเคยได้ยินคุณแม่เล่าให้ฟังว่าคุณแม่ของเพื่อนจู่ ๆ ก็เกิดจำคนในบ้านไม่ได้แบบฉับพลัน แต่ไม่มีใครพาไปหาหมอเพราะคิดว่าคงเป็น “อัลไซเมอร์” พอได้ยินเช่นนั้น ผู้เขียนจึงรีบบอกให้พาไปหาหมอทันที หลังจากเข้าเครื่องแสกนก็เป็นดั่งที่ผู้เขียนคาดการณ์คือ “มีลิ่มเลือดไปอุดตันในเส้นเลือดสมอง” อาการหลงลืมหรืออัลไซเมอร์มักจะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่เกิดแบบเฉียบพลันเช่นนี้
2. หายใจไม่ปกติ หายใจเร็ว แรง มีเสียงดังผิดปกติ ออกเสียงไม่ได้หรือมีอาการสำลักและตัวเขียว
อาการเหล่านี้อาจเกิดจากมีสิ่งใดไปขวางกั้นหรืออุดหลอดลมเอาไว้ โดยเฉพาะหากเกิดขึ้นขณะกำลังรับประทานอาหาร ควรรีบพาไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด อย่าพยายามเอามือล้วงเข้าไปเขี่ยออกโดยเด็ดขาดเพราะจะยิ่งทำให้สิ่งแปลกปลอมเข้าไปลึกมากขึ้น ผู้สูงอายุมักมีปัญหาด้านการกลืนอยู่บ่อยครั้งและมักจะสำลักอาหารและน้ำอยู่เป็นประจำ
3. เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอกหรือจุกเสียดอย่างรุนแรง มีอาการเหงื่อออกชุ่ม ตัวเย็น มือเท้าเย็น หรือหมดสติชั่ววูบ หรือวูบเมื่อลุกยืนo
อาการข้างต้นคืออาการของโรคหัวใจหรือกำลังจะเกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน หากผู้สูงอายุมีอาการดังกล่าวให้รีบบึ่งไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด เชื่อหรือไม่ว่าสัญญาณเตือนภาวะหัวใจวายมีอยู่หลายระดับ แต่คนส่วนใหญ่มักไปหาหมอเมื่ออาการมากแล้ว ทั้ง ๆ ที่มีอาการที่คล้ายกับข้างต้นแต่อาจจะรุนแรงน้อยกว่า คนมักจะเพิกเฉยเพราะคิดว่า “ไม่เป็นไร” และกล้ามเนื้อหัวใจก็ตายโดยไม่รู้ตัวทีละน้อย ซึ่งกว่าจะรู้ตัวก็สายเกินแก้
4. ปวดหัวรุนแรงร่วมกับอาเจียนหรือคอแข็งเกร็งฉับพลันร่วมกับหมดสติ
อาการเหล่านี้อาจไม่ต้องรอให้หมดสติก็ควรรีบพาผู้สูงอายุส่งโรงพยาบาลทันที เพราะนี้คือสัญญาณเตือนภัยว่าอาจเกิดภาวะหลอดเลือดสมองแตกขึ้นเสียแล้วสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือการแชร์ข้อมูลในโซเซี่ยลที่ว่า “ ถ้าเส้นเลือดสมองแตกอย่ารีบส่งโรงพยาบาลให้เจาะเลือดระบายจากนิ้วก่อน” อันนี้คือข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงอย่างที่สุด ภาวะเส้นเลือดสมองแตกและยิ่งหากเป็นเส้นเลือดขนาดใหญ่ทุก ๆ นาทีที่เสียไปอาจหมายถึงชีวิตครับ
5. แขนขาอ่อนแรงทันทีทันใด
อาการที่เกี่ยวกับสมองอีกหนึ่งอาการ บ่อยครั้งที่ผู้เขียนซึ่งเป็นนักกายภาพบำบัดต้องรู้สึกเสียดายเมื่อพบว่าผู้ป่วยหลายครั้งที่เริ่มมีอาการอ่อนแรงที่แขนขาแต่กลับไม่รีบไปหาหมอ ต้องรอจนมีอาการมากขึ้นจนสายเกินไป โรคหลอดเลือดสมองหากไปโรงพยาบาลทันใน 3 ชั่วโมง โอกาสหายสนิทก็มี
6. ชักหรือเพ้อ
อาการชักหรือเพ้อโดยไม่รู้สาเหตุ อาจเกิดจากสาเหตุหลายประการ อย่ารีรอจนอาการหนักขึ้น หากคุณตาคุณยายมีอาการดังกล่าว รีบพาไปหาหมอโดยเร็ว ถึงมือหมอไวอุ่นใจกว่าครับ
7. อุจจาระมีสีดำโดยไม่เกี่ยวกับอาหารและตัวซีด
นี่คืออาการที่ฟ้องว่าอาจเกิดภาวะเลือดออกในทางเดินอาหารของผู้สูงอายุยิ่งหากมีอาการซีดที่เล็บหรือใต้เปลือกตาด้วยแล้ว ต้องพาไปโรงพยาบาลโดยทันทีการเสียเลือดอย่างต่อเนื่องมีโอกาสเสี่ยงที่ผู้สูงอายุจะช็อคได้ง่าย
8. ท้องเสียหลายครั้งหรือรุนแรง
หากผู้สูงอายุมีอาการท้องเสีย ถ่ายเหลวมากกกว่า 3 ครั้ง และอาการไม่ดีขึ้น ก็ควรพาไปหาหมอโดยเร็ว เพราะร่างกายผู้สูงอายุไม่แข็งแรงเท่าวัยหนุ่มสาว ปัญหาจากการสูญเสียน้ำและเกลือแร่รวดเร็วเกินไปจะส่งผลเสียต่อผู้สูงอายุมากกว่าในคนหนุ่มสาว
9. มีไข้สูง หนาวสั่น
อาการไข้และหนาวสั่นอย่างฉับพลันและหากไข้นั้นสูงโดยไม่ลด นี่คือสัญญาณว่า อาจเกิดการติดเชื้อในที่ใดที่หนึ่ง อย่าลืมว่าภูมิคุ้มกันของผู้สูงอายุทำงานไม่ดีเท่าเดิม จึงเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายอยู่แล้ว อย่าละเลยอาการเหล่านี้ เพราะเชื้ออาจกระจายเข้าสู่กระแสเลือดซึ่งเป็นภัยถึงขึ้นเสียชีวิตเลยที่เดียว
10. มีอาการปวดรุนแรงเวลากลางคืนและมักเป็นในเวลาเดียวกันทุกคืนรวมถึงน้ำหนักลดอย่างรวดเร็วโดยไม่มีสาเหตุ
นี่คือสัญญาณเตือนภัยที่เรียกว่า “red flag” อันเป็นอาการที่บ่งชี้ภาวะของโรคมะเร็ง หากมีอาการเหล่านี้ต่อเนื่องเกินกว่า 1 อาทิตย์ อย่ารอช้าให้รีบพาผู้สูงอายุไปหาหมอในทันที โรคมะเร็งตรวจเจอไวรักษาหายได้
11. หกล้ม
หากผู้สูงอายุ หกล้ม สิ่งแรกที่ควรทำคือพาไปโรงพยาบาลทันที เพราะการหกล้มเป็นความเสี่ยงที่มักพบในผู้สูงอายุ เมื่อหกล้มแล้วความเสี่ยงที่ตามมาคืออาจเกิดภาวะกระดูกหักหรือร้าวได้ง่าย เพราะผู้สูงอายุมักมีภาวะกระดูกพรุนอยู่แล้ว แม้ว่าจะไม่มีอาการใดก็ไม่ได้หมายความว่ากระดูกจะไม่เป็นอะไร เพราะกระดูกอาจร้าวโดยไม่รู้ตัวและหากมีการกระทบกระเทือนในภายหลังก็อาจเปลี่ยนจากร้าวเป็นหักไปเลย
เหล่านี้คืออาการและสัญญาณเตือนที่ลูกหลานหรือคนใกล้ชิด ควรใส่ใจว่าเมื่อใดเกิดอาการดังกล่าวไม่ต้องรีรอและรีบพาคุณตา คุณยายนไปโรงพยาบาลทันที จำไว้เสมอว่าในห้วงความเป็นความตายทุก ๆ นาทีที่ผ่านไปมีความหมายเสมอ อย่าให้ความไม่รู้มาพรากคนที่เรารักไปตลอดกาลเพราะคิดไปว่า “ไม่เป็นอะไรหรอก” เพราะรถเสียยังซ่อมได้ แต่ถ้าเสียชีวิตอะไรก็เอามาแลกคืนไม่ได้ครับ
Add Comment