“อาการวัยทอง”คือช่วงเวลาที่ผู้หญิงทุกคนจะถึงวัยที่หมดประจำเดือนครับ ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วอาการวัยทองจะเริ่มต้นที่ช่วงอายุ49-55ปี แต่บางคนก็อาจจะเร็วหรือช้ากว่านั้นได้เช่นกัน อาการวัยทองเกิดจากการที่รังไข่หยุดผลิตไข่ทำให้ประจำเดือนเริ่มมาไม่ตรงรอบเดือนอย่างที่เคยเป็นและสุดท้ายก็จะหมดไปในที่สุด ผลที่ตามมาจากการที่รังไข่หยุดผลิตไข่ก็คือจะทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนหรือฮอร์โมนเพศหญิงจะลดลงจากระดับปกติ เมื่อระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงร่างกายก็จะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงและแสดงออกในหลายรูปแบบครับ ซึ่งอาการที่แสดงออกว่าคุณกำลังอยู่ในช่วงวัยทองนั้นมีดังต่อไปนี้

9 อาการแสดงออกที่บอกให้คุณรู้ว่าคุณกำลังจะเข้าสู่ช่วงวัยทอง

1.อาการร้อนวูบวาบ

            เป็นอาการที่พบได้บ่อยสำหรับผู้หญิงที่เริ่มเข้าสู่วัยทอง โดยมักมีอาการวูบวาบอยู่ในช่วงบนของร่างกายซึ่งอาการวูบวาบนั้นจะไม่สัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมครับ ซึ่งอาการนี้อาจเกิดขึ้นได้หลายรอบต่อวัน และเกิดขึ้นได้ตั้งแต่1-5นาทีในแต่ละครั้งครับ โดยมากอาการร้อนวูบวาบนี้จะเกิดขึ้นในช่วง1-2 ปีแรกแล้วก็จะหายไปในที่สุด

2. เหงื่อออกมากผิดปกติ

            อาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้แม้ว่าวันนั้นจะไม่ได้ร้อนมากเท่าใดนัก บางรายอาจเหงื่ออกมากจนกระทั่งเสื้อชุ่มไปด้วยเหงื่อและสร้างความรำคาญและความไม่มั่นใจหากต้องเข้าสังคมได้ ซึ่งเกิดจากการควบคุมอุณหภูมิร่างกายที่ผิดปกติไปจากภาวะที่ฮอร์โมนลดลงไปครับ อาการนี้จะเกิดขึ้นภายใน 1-2 ปีแรกและก็จะหายไปในที่สุดเช่นเดียวกับอาการร้อนวูบวาบนั่นเอง

3. นอนไม่หลับ

            อาการนอนไม่หลับเป็นอาการที่พบมากที่สุดในคนไทยที่เข้าสู่วัยทองครับ โดยอาการนอนไม่หลับมีด้วยกันหลายรูปแบบ แบบแรกมีอาการค่อนข้างรุนแรงคือจะนอนไม่หลับเลยถ้าไม่ได้ใช้ยานอนหลับในการช่วยให้หลับ แบบที่สองคือยังคงนอนหลับได้แต่อาจจะหลับยากและต้องใช้เวลาในการข่มตาจึงจะหลับและเมื่อตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วก็จะต้องใช้เวลาในการนอนหลับเหมือนกับช่วงเวลาที่เข้านอนใหม่ ๆ ในขณะที่บางรายสามารถนอนหลับได้ง่ายเหมือนปกติครับแต่เมื่อตื่นนอนก็ยังคงรู้สึกง่วงและอ่อนเพลียคล้ายกับนอนหลับไม่สนิท ซึ่งอาการนอนไม่หลับนี้อาจจะไม่ได้หายไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อเวลาผ่านไปครับ แต่อาจมีบางช่วงที่สามารถนอนหลับได้ดีขึ้นและสลับกับช่วงที่นอนหลับได้ไม่ดี

4. อารมณ์แปรปรวน

            อาการอารมณ์แปรปรวนเป็นอีกหนึ่งอาการที่พบได้บ่อยในคนวัยทองครับ อาจมีทั้งที่แสดงออกด้วยอาการหงุดหงิดฉุนเฉียวได้ง่ายหากคนรอบข้างทำอะไรที่ไม่ถูกใจก็จะไปกระตุ้นให้อารมณ์ขุ่นมัว อีกอาการหนึ่งที่มักพบได้บ่อยก็คืออารมณ์อ่อนไหวและซึมเศร้าง่ายกว่าแต่ก่อน เช่นนั่งร้องไห้เสียเฉย ๆทั้งที่ไม่มีเรื่องเศร้าเสียใจ บางรายเป็นคนคิดมากคิดเล็กคิดน้อย ในขณะที่บางรายมีอาการหดหู่ จิตใจห่อเหี่ยวซึ่งหากปล่อยทิ้งเอาไว้โดยไม่แก้ไขก็อาจนำไปสู่การฆ่าตัวตายได้ครับ ภาวะอารมณ์แปรปรวนนี้โดยมากผู้ที่เป็นมักจะไม่ค่อยรู้ตัวครับต้องอาศัยคนรอบข้างเป็นเสียงสะท้อนความเปลี่ยนแปลงนี้

5. ผิวบาง แห้ง มีฝ้าและกระ รวมถึงแพ้สิ่งต่าง ๆง่ายกว่าเดิม

            อาการผิวบางและแห้งนี้จะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปครับ บางรายที่มีอาการมากก็จะเริ่มคันยุบยิบตามผิวหนัง นอกจากนี้ยังพบว่าบางรายมีความไวต่อสิ่งต่าง ๆง่ายกว่าเดิมเช่นผ้าขนหนู ผ้าเช็ดตัว ดอกหญ้าหรือสารที่ใช้ในการทำความสะอาดทั้ง ๆที่เป็นสิ่งที่ใช้อยู่เป็นประจำครับ ซึ่งยิ่งเวลาผ่านไปนานเพียงใดผิวก็จะยิ่งแห้งกร้านมากขึ้นเท่านั้นและมีโอกาสเกิดฝ้าและกระได้ในที่สุด

6. ช่องคลอดแห้ง

            อาการช่องคลอดแห้งจะสร้างความระคายเคืองให้แก่ผู้ที่อยู่ในภาวะวัยทองครับ โดยอาการระคายเคืองจะเกิดขึ้นเมื่อมีกิจกรรมการเคลื่อนไหวต่าง ๆเช่นการยืน เดิน นั่งโดยอาจเกิดการระคายเคืองได้ทั้งภายนอกและภายในครับ อาการนี้สร้างความหงุดหงิดรำคาญใจให้กับคนวัยทองเป็นอย่างมากครับและอาจสร้างปัญหาต่อความสัมพันธ์ในครอบครัวได้ครับหากสามีขาดความรู้และความเข้าใจต่อภาวะวัยทองที่เกิดขึ้นกับภรรยา

7. ภาวะกระดูกพรุน

            ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีผลต่อการดูดซึมแคลเซียมเพื่อเพิ่มมวลกระดูกครับ เมื่อฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงจะทำให้การดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่กระดูกลดลงตามไปด้วย ผลที่ตามมาก็คือจะทำให้ผู้ที่เข้าสู่วัยทองมีมวลกระดูกลดลงและค่อย ๆ พัฒนาจนนำไปสู่ภาวะกระดูกพรุนในที่สุด

8. ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดในข้อและในกระดูก

            อาการปวดเมื่อยที่เกิดขึ้นแทบจะตลอดเวลา โดยที่แต่ละคนก็จะมีอาการปวดเมื่อยที่ไม่เหมือนกันครับและไม่ทราบสาเหตุของการปวดเมื่อยอย่างชัดเจน การนวดจะช่วยเพียงแค่บรรเทาอาการเป็นครั้งคราวเท่านั้นแต่สักพักก็จะกลับมาปวดเมื่อยใหม่ ซึ่งสันนิษฐานว่าจากการที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงจะส่งผลต่อการหดตัวของกล้ามเนื้อจนนำไปสู่อาการปวดเมื่อยในที่สุด ในขณะที่บางรายอาจมีอาการปวดตาข้อและกระดูกร่วมด้วยได้เช่นกัน

9. ปัสสาวะบ่อยและกลั้นปัสสาวะไม่ค่อยอยู่

            ผู้ที่มีอาการวัยทองมักจะมีอาการปัสสาวะบ่อย และหลายครั้งที่ไม่อาจกลั้นปัสสาวะได้จนนำไปสู่ปัญหาปัสสาวะเล็ดได้ ซึ่งสร้างความรำคาญใจให้แก่ผู้ที่มีภาวะวัยทองไม่น้อย บางรายที่เป็นมากก็อาจมีอาการแสบขณะปัสสาวะร่วมได้เช่นกัน เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะการลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนทำให้หูรูดกระเพาะปัสสาวะขาดความยืดหยุ่นและเนื้อเยื่อบุผิวช่องคลอดบางลงจนเป็นสาเหตุของการปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่อยู่และมีอาการแสบเมื่อปัสสาวะ

            อาการทั้ง 9 นี้คืออาการที่บ่งชี้ว่าคุณผู้หญิงกำลังเข้าสู่ภาวะวัยทองแล้วครับ ปัญหาวัยทองไม่ใช่สิ่งน่ากังวลแต่อย่างใดเพราะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและอาการบางอย่างก็จะหายไปเมื่อเวลาผ่านไป แต่หากคุณรู้สึกว่าอาการดังกล่าวกวนใจและสร้างความรำคาญให้แก่คุณ ลองปรึกษาคุณหมอเฉพาะทางดูนะครับเพราะคุณหมอจะแนะนำและมีวิธีดูแลตัวเองเพื่อรับมือภาวะวัยทองของคุณได้อย่างแน่นอน